Eric Schmidt อดีตผู้บริหารบริษัทกูเกิล และอดีตคณะกรรมการผู้บริหาร ของบริษัทแอปเปิลได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า "ความสำเร็จของผมถูกกำหนดมาแล้วด้วยโชคชะตา และผมคิดว่าเกือบทุกคนที่ประสบความสำเร็จมักจะพูดว่าพวกเขานั้นโชคดี"
โชคดีเรื่องแรกตัวของ Eric Schmidt คือการศึกษา
เขาเรียนจบปริญญาโทและเอกสาขา Computer science ในช่วงที่อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์เพิ่งเริ่มต้นพอดิบพอดี และนี่คือจุดเริ่มต้นที่เป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของเขา ตัวของ Schmidt ถึงกับบอกว่า “ ผมได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นก็โชคดีมากๆ”
โชคดีเรื่องที่สองของ Schmidt คือ เขาได้เจอกับเพื่อนที่ดี ที่คอยช่วยเหลือเขา
Schmidt บอกว่า "ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นผู้นำที่มีเสน่ห์ จากการที่ผมทำงานร่วมกับ Scott McNealy ( Scott McNealy คือ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ชื่อดัง Sun Microsystems )
นอกจากนี้ในช่วงที่ผมอยู่ที่ Google ผมก็ได้ทำงานร่วมกับผู้ร่วมก่อตั้ง Google อย่าง Larry Page และ Sergey Brin ผมถูกเลือกให้มาทำงานกับผู้คนที่ชาญฉลาดและกล้าเสี่ยงไปด้วยกัน มันทำให้ผมได้เรียนรู้มากมาย"
โชคดีเรื่องสุดท้าย Schmidt เขาได้บอกว่า "ผมโชคที่เกิดมา โชคดีที่มีชีวิตครอบครัวที่มีปัญญา แต่ชาญฉลาดการเลี้ยงดูลูก และโชคดีที่ได้รับการศึกษาระดับโลก"
--------------------------------------------------------------------------
ไม่ใช่แค่ตัวของ Eric Schmidt เท่านั้นที่บอกว่าตัวเขาประสบความสำเร็จได้เพราะความโชคดี แม้แต่ Warren Buffett ก็บอกว่าเขาและลูกของเขานั้นโชคดีเช่นกัน ตัวของ Buffett บอกว่า " ผมโชคดีที่เกิดในประเทศที่ถูกต้องและเกิดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ความมั่งคั่งของผมมาจากการรวมกันของการใช้ชีวิตในอเมริกาประเทศที่มียีนส์นำโชค และดอกเบี้ยทบต้น ลูกๆ ของผม และตัวผมเองเหมือนถูกรางวัลที่เรียกว่า ลอตเตอรีรังไข่ "
Bill Gates บอกผมเสมอว่า ถ้าผมบังเอิญเกิดเมื่อหลายพันปีก่อน ผมคงเป็นได้แค่อาหารกลางวันของนักล่า เพราะผมวิ่งก็ช้าแถมปีนต้นได้ก็ไม่ได้ และถึงผมจะบอกกับพวกนักล่าว่า "อย่ากินฉันเลยนะ ฉันจะแบ่งหุ้นให้พวกแก" พวกนักล่าก็คงไม่สนใจนอกจากคิดว่า "ผมเป็นอาหารแสนอร่อย"
--------------------------------------------------------------------------
ตัวของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ก็บอกว่าตัวเองนั้นโชคดีเช่นกัน Mark Zuckerberg บอกว่า " ผมเป็นหนี้ความสำเร็จของการเลี้ยงดูของครอบครัว พ่อของผมเป็นหมอฟันจึงทำให้ผมมีชีวิตที่สะดวกสบายดังนั้น ผมจึงมีอิสระในการได้ทำในสิ่งที่ผมสนใจ"
ด้วยครอบครัวที่มีฐานะจึงทำให้ตัวของ Zuckerberg สามารถดรอปเรียนและออกมาทำ Facebook ได้อย่างเต็มตัวโดยไม่ต้องกังวลอะไรมาก ตัวของ Zuckerberg พูดถึงความโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะว่า "นักศึกษาบางคนยังไม่สามารถจ่ายเงินกู้การศึกษาได้เลย จะนับประสาอะไรกับการเริ่มต้นทำธุรกิจล่ะ เราทุกคนรู้ดีว่าเราไม่ได้ประสบความสำเร็จเพียงแค่มีไอเดียที่ดีหรือแค่ทำงานหนัก เราต้องมีโชคด้วยถึงจะประสบความสำเร็จ"
--------------------------------------------------------------------------
หรือแม้แต่คนในยุคโบราณอย่างขงเบ้งก็ยังพูดถึงเรื่องโชคชะตาเอาไว้าว่า
" ในการทำศึกชัยชนะจะได้มาต่อเมื่อ ฟ้าประสาท โอกาสอำนวย ต้องด้วยใจคน "
แม้นฟ้าประสาทแลใจคนสอดคล้องแต่โอกาสไม่อำนวยนั่นเรียกว่า #ฝืนโอกาส
แม้นใจคนสนับสนุนและต้องด้วยโอกาสแต่ฟ้าไม่ให้ นั่นเรียกว่า #ฝืนฟ้า
แม้นฟ้าประสาทและโอกาสเหมาะสมแต่ไม่ต้องด้วยใจคน นั่นเรียกว่า #ฝืนใจ
ผู้มีสติปัญญาไม่กระทำการที่ ฝืนฟ้า ฝืนโอกาส ฝืนใจคน
--------------------------------------------------------------------------
ถึงแม้ Eric Schmidt, Warren Buffett, Mark Zuckerberg จะโชคดีต่างกัน เช่นได้ที่เกิดมาในอเมริกา ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ หรือได้เกิดมาถูกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการลงทุน แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือบุคคลเหล่านี้ไม่ได้รอโชคชะตามากำหนดเส้นทางของเขาเอง แต่เขาเริ่มลงมือทำเพื่อกรุยทางไปสู่ความสำเร็จ โดยมีโชคชะตาเป็นแค่ส่วนหนุนนำ เพราะต่อให้จะโชคดีแค่ไหนแต่ไม่เคยลงมือทำยังไงความสำเร็จก็คงมาไม่ถึงอย่างแน่นอน
คุณละครับเชื่อเรื่องโชคชะตากำหนดเส้นทางชีวิตแค่ไหน?
ที่มาของข้อมูล https://www.cnbc.com/2018/12/14/google-billionaire-eric-schmidt-luck-is-a-big-part-of-success.html?&qsearchterm=lucky